รายการโหนกระแส 18 เม.ย. 68 หยิบประเด็นร้อน BMW ป้ายแดงชนกระบะ ลุง-ป้าเจ็บ ปมปาดหน้ากลางถนน ปมดรามาลูกนักการเมืองท้องถิ่น
ในรายการ โหนกระแส วันที่ 18 เมษายน 2568 พูดคุยถึงกรณีอุบัติเหตุที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์ เมื่อรถยนต์ BMW สีขาว ป้ายแดง ขับโดย นายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ วัย 28 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ได้มีการขับไล่ตามรถกระบะของลุงและป้าคู่หนึ่ง จนเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนและพุ่งชนแบริเออร์กลางถนน ทำให้ทั้งสองได้รับบาดเจ็บ
ในรายการมีการต่อสายโฟนอิน นายกเบี้ยว กฤษฎา หลีนวรัตน์ บิดาของนายพีช สมิทธิพัฒน์ คนขับ BMW เผยว่า ตอนนี้ตนไปอยู่ที่ช่อง 8 เตรียมออกรายการ ได้คุยกับลูกชายแล้ว แต่ว่า “น้องพีชยังตกใจ” ทำให้ไม่รู้ว่าน้องพีชจะออกมาพูดในรายการได้หรือไม่
นายกเบี้ยวยังบอกอีกว่า ตนไม่ได้มีอิทธิพลอะไรเลย สามารถไปถามชาวปทุมธานีได้เลยว่า ตนเป็นคนธรรมดาทั่วไปเหมือนกัน และยืนยันว่าได้พูดคุยกับคุณลุงคุณป้า ได้สอบถามอาการสั้นๆ เพราะทราบว่าท่านยังต้องรักษาตัวอยู่ ก็เพียงแต่สอบถามสั้นๆ ขอถ่ายภาพ แล้วก็กลับลงมา
เมื่อถามว่า อาการของคุณลุงคุณป้ายังหนัก ไม่ได้ให้ใครเข้าเยี่ยม แล้วท่านนายกเอาสิทธิ์อะไรเข้าไปเยี่ยม ก็ยืนยันว่า เข้าไปตามขั้นตอน ทางพยาบาลและทางแพทย์ให้อนุญาตแล้ว จึงเยี่ยมได้
นายกเบี้ยวยังบอกอีกว่า เห็นคลิปแล้วตกใจเหมือนกัน เพราะ “น้องพีชไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้” แต่ช่วงหลังๆ เราไม่ค่อยได้เจอลูก มาเห็นคลิปแบบนี้ก็ตกใจเหมือนกัน แต่ไม่ได้เข้าข้างลูกแน่นอน เขาผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
“น้องพีชเป็นห่วงคุณลุงคุณป้ามาก แต่เขาก็ไม่กล้ามา เขาจึงขอให้พ่อมาเยี่ยมแทน ตนก็บอกคุณป้าว่า น้องพีชไล่ผมมานะ น้องพีชบอกว่า ป๊า ป๊าต้องไปเยี่ยมเขานะ” นายกเบี้ยวกล่าว
ทางคุณนุก ลูกสาวของคุณลุงคุณป้า พยายามขอพูดคุยกับคุณพีชได้ไหม แต่ทางนายกเบี้ยวบอกว่า น้องพีชมากับตนจริง แต่เขายังไม่พร้อมจะคุยกับใคร จิตใจเขาอ่อนไหวมาก เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ หัวอกคนเป็นพ่อ ตนก็ต้องค่อยๆ กล่อมให้เขาใจเย็นลง
ทางคุณนุก และ คุณอีฟ ทีมงานของ กัน จอมพลัง บอกว่า ก่อนที่จะพาลูกไปออกรายการ ก็ควรจะติดต่อมาหาญาติคู่กรณีหรือไม่ ทางนายกเบี้ยวก็บอกว่า ลูกชายกลัวมาก แม้แต่พ่อก็ยังติดต่อลูกไม่ได้เลย แล้วที่ถามว่าทำไมเขายังไม่ติดต่อญาติเลย ตนก็อยากบอกว่า ตนเองก็ต้องค่อยๆ พูดเหมือนกัน เพราะเขาตกใจมากจริงๆ
กัน จอมพลัง ต่อสายตรงเข้ามาจากต่างประเทศ ถามย้ำนายกเบี้ยวว่า ในเมื่อทางครอบครัวย้ำกับทางโรงพยาบาลไว้ว่า ตอนที่ลูกๆ ไม่อยู่ ขอร้องว่าไม่อนุญาตให้ใครเยี่ยม แล้วนายกเบี้ยวเข้าไปเยี่ยมได้ยังไง อ้างว่าไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์ ก็ขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้อีก
นายกเบี้ยวบอกว่า น้องพีชอยากไปกราบขอโทษคุณลุงคุณป้า ถ้าทางครอบครัวสะดวก ขอนัดวันเวลาหน่อยได้ไหม ทางคุณนิกบอกว่า ถ้าคุณพีชจะมาเอง มาได้เลยที่โรงพยาบาล เดี๋ยวจะแจ้งเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง
นายกเบี้ยวตอบคำถามเรื่องชื่อของ BMW ว่าเป็นชื่อของพีช ส่วนใบขับขี่ของลูกหมดอายุ ตนไม่รู้เรื่องเลย อยากขอโทษสังคมว่า ตนไม่มีเวลาให้ลูกตัวเองเลย ไม่ได้รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง ถ้ามีเวลาให้เขามากกว่านี้ก็คงดีกว่านี้
ขอยืนยันว่า ตนรู้สึกผิด และน้องพีชก็สำนึกผิดแล้ว อยากให้สังคมให้โอกาสเขา เพราะเขาเองก็อายุยังน้อย ส่วนเรื่องการลงสมัครเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลลำลูกกา การลงสมัครมันถอนตัวไม่ได้ ก็ต้องดำเนินต่อไปตามนั้น
ขณะที่คุณนี พลเมืองดีที่ขับรถอัลพาร์ด ที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ เผยคลิปเสียงที่ นายพีช สมิทธิพัฒน์ โทรมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว บังคับให้ลบคลิปเพราะทำให้เขาเสียหาย ขณะที่ฝั่งของคุณนียืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้ร้ายใคร และต้องการโพสต์เพื่อชี้แจงว่า เราไม่ได้มากับรถกระบะ หรือรถ BMW และเพียงต้องการให้สังคมได้เห็นเหตุการณ์เท่านั้น
พีชได้ขอร้องอย่างฉุนเฉียวให้ลบคลิป ทั้งยังถามด้วยว่า บ้านของคุณนีอยู่ที่ไหน ลักษณะเหมือนเป็นการข่มขู่ จนทำให้คุณนีกลัวมาก คุณนียืนยันว่า ไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับใครเลยนอกจากตำรวจ แต่หลังเกิดเรื่อง ปรากฎว่ามีสายของคุณพีชโทรมาทันที จึงสันนิษฐานว่า น่าจะได้เบอร์มาจากตำรวจหรือไม่ อย่างไร
ต่อมา มีการรายงานในระหว่างดำเนินรายการสดก็คือ พีช สมิทธิพัฒน์ ไปนั่งในรายการคนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 8 เคียงข้างนายกเบี้ยว โดยเปิดเผยว่า
“ผมตกใจมากครับ ไม่คิดว่าจะทำให้คุณลุงคุณป้าบาดเจ็บสาหัส ผมตกใจมาก จนต้องหนีไปอยู่บ้านเพื่อนก่อน ไม่ได้ติดต่อใครเลย ใครโทรมาก็ไม่รับสาย กลัวคุณพ่อจะรู้ กลัวใครจะรู้ กลัวว่ามันจะมีปัญหา”
พีชบอกว่า ไม่ได้หัวร้อนถึงขนาดจะเอาให้บาดเจ็บอะไรแบบนั้น เราไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเป็นคนแก่ และไม่เห็นว่าเขายกมือไหว้ขอโทษ ถ้าเห็นคงไม่เกิดแบบนี้แน่นอน พีชพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า เรารู้สึกผิดใมาก ถ้าเขาเสียชีวิต เราก็คงยิ่งรู้สึกแย่กว่านี้ แค่คิดว่าเป็นพ่อแม่เราก็ใจเสียแล้ว
ตอนแรกพีชไม่ยอมติดต่อคุยกับญาติของคนเจ็บโดยตรง แต่ทางพี่หน่วงพยายามติดต่อผ่านคุณพุทธอภิวรรณ จนสามารถได้คอลแลปสองรายการ เข้าสายให้สองฝ่ายได้คุยกัน
บทสนทนาในช่วงนี้ คุณนุก ได้ถามคุณพีชว่า
“คือที่เราติดใจคุณพีช คือก่อนจะไปออกรายการใดๆ คุณพีชเคยบอกว่า คุณพีชจะติดต่อเรากลับมา จะเอากระเช้าไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่เรา แต่คุณพีชไม่เคยติดต่อกลับมาเลย เราถึงติดใจว่า ทำไมถึงไม่มาขอโทษ ไม่ติดต่อเรามาก่อน แต่กลับไปนั่งออกรายการ ทั้งที่ยังไม่แสดงความรับผิดชอบเลยว่า คุณจะรับผิดชอบเราในทิศทางไหน”
คุณพีชตอบกลับมาว่า “พี่นุกครับ พีชต้องขอโทษก่อนนะครับ ที่พีชไม่ได้ติดต่อไปหา หรือว่าไม่ได้เข้าไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ของพี่นุก แต่ว่าพีชตกใจ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จนหายไปวันนึง แล้วได้มาปรึกษาคุณพ่อว่า อยากไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้า ค่ารักษาพยาบาล ค่ารถค่าอะไร เราขอรับผิดชอบให้ทั้งหมดเลยได้ไหม อันนี้ต้องขอโทษจริงๆครับ”
คุณนุกบอกว่า “ได้ฟังคุณพีชขอโทษผ่ายรายการ ถามว่าสบายใจไหม ก็นิดนึงนะคะ แต่ก็อยากได้ความจริงใจมากกว่านี้ ว่าจะมาเจอหน้ากัน มาแสดงความจริงใจกว่านี้ได้ไหมคะ”
พีชตอบว่า “ก็กลัวว่าคุณลุงคุณป้าจะโกรธ ก็อยากพี่นุกเข้าใจพีชด้วยนะครับ”
คุณนุกตอบกลับไปว่า “ก็อยากให้คุณพีชเข้าใจทางเราด้วยนะคะ ว่าทางเราบาดเจ็บสาหัสนะคะ”
คุณพีชเผยว่า เรื่องของการโทรไปหาคุณนีเพื่อขอให้ลบคลิป ได้จดเบอร์มา และใช้เบอร์ของรุ่นพี่เพื่อโทรไปขอร้องให้ลบ แต่เบอร์ของผู้เสียหาย พีชได้ให้เบอร์ของตัวเองไว้กับคุณนุกแล้ว
ส่วนประเด็นของการไปกล่าวอ้างเรื่อง เป็นหลาน “อาต่าย” พีชบอกว่า พูดว่าเป็นลูกหลานตำรวจเหมือนกัน แต่ไม่ได้พูดว่า เป็นหลานอาต่าย แต่ทางคุณนุกยืนยันว่า ที่โรงพักทางหลวง ทุกคนได้ยินเหมือนกันหมด ว่าคุณพีชพูดว่า “ผมเป็นหลาน ผบ.ต่าย”
ส่วนถามว่า เหตุการณ์ครั้งนี้จะกระทบกับการลงเลือกตั้งไหม พีชยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน การที่ขับรถชน มันไม่เกี่ยวอะไรกับการดูแลประชาชนแน่นอน มันคนละเรื่องกัน
พี่หน่วงถามต่อไปว่า แล้วตอนที่มีการเบียดกับรถกระบะของคุณลุงก่อนจะไล่ตาม รถลุงมาชนรถพีชจริงไหม พีชบอกว่า ถ้าไม่หักหลบ ชนแน่นอน แต่ตอนเกิดเหตุรถกระบะไม่ได้ชน
พี่หน่วงจึงอ่านบันทึกที่พีชไปให้การกับตำรวจเอาไว้ ว่า “รถกระบะของคุณลุงไปชนรถ BMW ของพีช ทางด้านท้ายขวา จนได้รับความเสียหาย” ตามบันทึกของตำรวจ แบบนี้มันเป็นการให้การเท็จหรือไม่ แต่พีชก็ยืนยันว่า ไม่ได้พูดว่าเขามาชนผม พูดไปว่ามาเบียดจนผมชนแบริเออร์ แต่เขาไม่ยอมจอด ยืนยันว่าพูดไปแบบนั้น พี่หน่วงยืนยันว่า ในใบให้การมีลายเซ็นของพีชลงนามรับทราบในใบบันทึกประจำวันด้วย
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเรื่องนี้คงได้เข้าไปอยู่ในกระบวนการทางกฎหมายแล้ว และคุณพีชก็ได้นัดหมาย ที่จะเข้ามาขอโทษกับครอบครัวของผู้บาดเจ็บแล้ว เดี๋ยวหลังจากจบรายการเดี๋ยวจะได้ว่ากันต่อไป ทั้งในเรื่องของการเยียวยาและในเรื่องของคดีอาญา