แฉยับ ผู้รับเหมาสร้างตึกถล่ม เปิดใจพูดหมดเปลือกทั้งเรื่องงาน-เงิน หลังโดนเบี้ยวค่าจ้าง

จากกรณีที่โซเชียลมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ กลุ่มผู้รับเหมาทวงถามค่าจ้าง จากบริษัทที่เป็นซัพคอนแทค ของตัวแทนกิจการร่วมค้าบริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ซึ่งรับสัมปทานก่อสร้างตึก สตง.แห่งใหม่ ที่ถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค.จากผลกระทบแผ่นดินไหวที่เมียนมานั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 เม.ย.2568 ภายหลังที่ช่วงเช้ามีการเจรจากันระหว่างตัวแทนบริษัท 9PK จำกัด, ตัวแทนกิจการร่วมค้าบริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และ บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และตัวแทนผู้รับเหมาช่วงถูกเบี้ยวค่าแรง นานประมาณ 1 ชั่วโมง

นายฐิติพงศ์ หรือช่างเบิร์ด หัวหน้าผู้รับเหมาระบบไฟที่ถูกเบี้ยวเงินค่าจ้างในคลิป เปิดเผยข้อมูลว่า บริษัทของตัวเอง คือ “บริษัท บีแอล จำกัด” เข้าไปทำงานที่อาคาร สตง. ได้ประมาณ 1 ปี ตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.67 จนถึงเดือน ม.ค.68 ถูกว่าจ้างจากบริษัท 9PK จำกัด ที่มาจ้างให้เข้าไปทำระบบไฟฟ้า และเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับบริษัทนี้

โดยยอมรับเป็นการทำสัญญาแบบปากเปล่า ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะเห็นว่าทางตัวแทนของบริษัท 9PK ให้ความมั่นใจว่าเป็นโครงการใหญ่ มีทุนการสร้างหลักพันล้าน และเป็นโครงการของรัฐบาล มีความน่าเชื่อถือ จึงเชื่อใจรับทำงานโดยไม่มีการเซ็นสัญญา ก่อนรับหน้าที่ดูแลเรื่องระบบไฟทั้งหมดของโครงการ พร้อมขนคนงานมาทำให้มากกว่า 80 ชีวิต

ส่วนการรับงานของตัวเอง เป็นซับคอนแทคต่อจากบริษัท 9PK และบริษัท 9PK เอง ก็เป็นซัพคอนแทคจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และบริษัท อิตาเลียนไทย
ช่างเบิร์ด บอกอีกว่า ในช่วงต้นที่ทำงาน 1-2 เดือนแรก ทางบริษัท 9PK ได้จ่ายเงินปกติ แต่ช่วงตั้งแต่เดือนมิ.ย.67 ปรากฎว่าเริ่มจ่ายเงินไม่ครบตามกำหนด จ่ายเงินไม่เต็มจำนวนบ้าง เช่น จะต้องจ่ายเดือนละ 500,000 บาท ก็จ่ายแค่ 250,000 บาท โดยอ้างเหตุผลว่าจะเอาไปทบจ่ายในงานหน้า แต่พอผ่านไป 15 วัน ก็เงียบหาย ตัวเองพยายามตามเรื่องเงินตลอด แต่ทางบริษัทก็ไม่จ่ายเงินให้

โดยมีช่วงหนึ่งในคลิปวิดีโอ ที่ตัวแทนของบริษัทบอกว่า จ่ายเงินให้กับบริษัท 9PK ไปแล้ว ประเด็นนี้ “ช่างเบิร์ด” บอกว่า ตัวเองก็ไม่ทราบว่าเขาจ่ายเงินให้กันครบหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ตัวเองไม่ได้รับเงินเลยสักบาท หลังทบยอดไปแล้วก็มากถึง 3,482,261 บาทแล้ว

ส่วนบริษัท 9PK จะเบิกแล้ว ไม่นำเงินมาจ่ายให้ตัวเองหรือไม่นั้น เรื่องนี้ “ช่างเบิร์ด” ตอบว่า “ก็ไม่แน่ใจ เพราะทุกครั้งที่ทวงถาม ก็จะบอกว่ายังไม่ได้เงินจากซับคอนแทคตัวเองเหมือนกัน จึงเชื่อว่าหากได้เงินมาแล้ว เขาอาจจะนำไปหมุนและไม่มีเงินมาจ่ายพวกเรา
ปัญหาที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ทำให้ตัวเองต้องไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการนำเงินมาจ่ายลูกน้อง ด้วยการควักเงินสำรอง และต้องเอาบ้าน เอารถ เอาที่ดินไปจำนอง เพราะไม่มีเงินจ่าย ทุกวันนี้ต้องแบกรับปัญหาดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

ส่วนเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ตัวเองและบริษัทอื่น ที่เป็นซับคอนแทคของ บริษัท 9PK ไปประท้วงทวงเงินที่อาคาร สตง. “ช่างเบิร์ด” บอกว่า ตั้งใจจะไปพบกับผู้ว่าฯ สตง. เนื่องจากเป็นวันส่งงานพอดี เลยอยากเข้าไปขอความเห็นใจ และอยากให้ผู้ว่าฯ สตง. เข้ามาแก้ปัญหาในการจ่ายเงินให้ แต่ปรากฎว่าก็ได้เจอแค่ผู้จัดการโครงการ ซึ่งเป็นคนของบริษัท 9PK จำกัด, คนของบริษัท อิตาเลียนไทย พร้อมกับนายหลินหยาง ผู้ควบคุมโครงการจากบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เท่านั้น

โดยวันนั้นมีข้อสรุปแค่ว่า จะมีการจ่ายเงินงวดที่ 23 (งวดสุดท้าย) ให้กับทั้ง 6 บริษัทที่ยังไม่ได้รับเงิน เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 5,795,613 บาท โดยบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 จะตัดเงินของบริษัท 9PK จำกัด มาจ่ายให้ก่อน แต่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ยอมรับว่าผิดหวังมาก เพราะโครงการระดับหลักพันล้าน ระดับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ก็คิดว่าคงไม่โกงเงิน และคงไม่มีปัญหาเรื่องการจ่ายเงิน เพราะมีความน่าเชื่อถือ และตัวเองเชื่อว่ายังมีบริษัทอื่นที่เป็นซับคอนแทคของบริษัท 9PK อีกหลายเจ้าที่ยังไม่ได้เงินเช่นกัน มูลค่าน่าจะกว่า 10 ล้านกว่าบาท
เมื่อถามถึงสภาพอาคาร สตง. แห่งใหม่ ตอนที่ได้เข้าไปทำงาน เป็นอย่างไรบ้าง “ช่างเบิร์ด” บอกว่า ในช่วงที่เข้าไปทำงาน ก็เห็นคนของ สตง. และบริษัทจากประเทศจีน เข้ามาตรวจงานหลายครั้ง เพื่อเช็คความคืบหน้าของการก่อสร้าง แต่สิ่งที่เอะใจ เมื่อตอนเขาไปทำงาน เห็นว่าผนังของตึกมีความเปราะบาง เพราะเมื่อตอนจะติดตั้งแคมป์บนผนังแผ่นปูน ก็หลุด ด้านในก็เป็นโพรง ไม่แน่นเหมือนปูนทั่วไป จึงมองว่าปูนมันไม่หุ้มเหล็ก เวลาเอาค้อนตอก มันจึงไม่ค่อยติด ซึ่งตัวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร

“ช่างเบิร์ด” ยังบอกอีกว่า ไม่รู้ว่าในความโชคร้ายถือเป็นความโชคดีอยู่หรือไม่ ที่ตัวเองนำคนงานออกไปตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพราะถ้าหากยังอยู่ต่อ ก็อาจจะคงติดอยู่ในอาคาร สตง. แล้ว ไม่รู้ว่าต้องขอบคุณเขาหรือไม่อย่างไร

และวันนี้ทางกลุ่มผู้รับเหมาที่เป็นซับคอนแทคของบริษัท 9PK ได้นัดรวมตัว เพื่อมาคุยกับทางบริษัท 9PK, ตัวแทนบริษัท อิตาเลียนไทย และตัวแทนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เพื่อหาข้อสรุปเรื่องเงินที่ติดค้างไว้ จึงหวังแค่เพียงได้เงินคืนกลับมา เพราะตั้งแต่ที่คุยล่าสุด ก็ไม่เคยมีใครติดต่อตัวเองกลับมาอีกเลย และที่ผ่านมาตัวเองก็เคยไปฟ้องศาลแรงงาน ไปแจ้งความ แต่ก็ไม่มีใครรับเรื่อง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *